พรบ รถยนต์
พรบ รถยนต์ คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากการใช้รถยนต์ เป็นการคุ้มครองเบื้องต้น ทำให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุมครองทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยเมื่อเกิดเหตุแล้วมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นเราเองหรือคู่กรณี ให้เราจ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อนแล้วจึงมาเบิกกับ พรบ. เป็นอันดับแรก
เมื่อเราเบิกค่ารักษาพยาบาลกับทาง พ.ร.บ. รถยนต์ เรียบร้อยแล้วหากมีสิทธิ์ในการเบิกในทางอื่น เราถึงค่อยทำการเบิกต่อไปแล้วแต่ว่าใครจะมีสิทธิ์ในทางไหน อาทิเช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยรถยนต์ ทั้งนี้เองทำให้ต้องมีกฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี พรบ ก่อนถึงจะทำการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ ซึ่งถ้าใครไม่ไป ต่อ พรบ. ส่งผลให้ พ.ร.บ. ขาด จะโดนเจ้าหน้าที่เรียกจับปรับได้ทุกเมื่อเลยนะครับ
พรบ.รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง
พรบ. รถยนต์ ให้ความคุ้มครองกรณี ค่าเสียหายเบื้องต้น และ ค่าสินไหมทดแทน เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ?
1. ค่าเสียหายเบื้องต้น
ค่าเสียหายเบื้องต้นที่เราจะได้รับจาก พรบ.รถยนต์ จะได้รับไม่เกิน 7 วันทำการ โดยไม่ต้องรอตรวจหลักฐานว่าเราเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก จะได้รับคนล่ะ 30,000 บาท หากเกิดการบาดเจ็บและได้รับคนละ 35,000 บาท หากเกิดการสูญเสียอวัยวะต่างๆตามที่ทาง พ.ร.บ.รถยนต์ ได้ระบุเอาไว้ ซึ่งมีการคุ้มครองเกี่ยวกับค่าเสียหายเบื้องต้น ดังนี้
- กรณีได้รับบาดเจ็บ + สูญเสียอวัยวะ จะได้รับความคุ้มครองไม่เกิน 65,000 บาท / คน
- กรณีเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับเงินค่าทำศพ 35,000 บาท/คน
- กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลแล้วผู้บาดเจ็บเสียชีวิต จะได้รับเงินค่าชดเชยไม่เกิน 65,000 บาท / คน
2. ค่าสินไหมทดแทน
ค่าสินไหมทดแทนจะได้รับก็ต่อเมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานต่างๆแล้วว่า เราเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจะไม่ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนแม้แต่บาทเดียว เราต้องเป็นฝ่ายถูกเท่านั้นจึงจะได้รับเงินส่วนนี้ เรามาดูกันว่าถ้าเราได้รับ จะได้รับความคุ้มครองในกรณีใดบ้าง ดังนี้
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงหรือไม่เกิน 80,000 บาท / ครั้ง
- ได้รับเงินชดเชยหากเกิดการสูญเสียอวัยวะตามหลักเกณฑ์ที่ทาง พรบ รถยนต์ ระบุไว้ 200,000 – 300,000 บาท
- ได้รับเงินชดเชยจากกรณีเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวร (เน้นว่าต้องถาวรเท่านั้น) ถึงจะได้รับ 300,000 บาท
- ได้รับเงินค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยในวันละ 200 บาท เบิกได้ไม่เกิน 20 วัน รวมทั้งสิ้น 4,000 บาท
รวมค่าสินไหมทดแทนที่จะได้รับจาก พรบ.รถยนต์ ต่อคน ไม่เกินคนละ 304,000 บาท โดยที่ พ.ร.บ.รถยนต์ จะคุ้มครองกรณีที่เกิดเหตุกับรถยนต์ ไม่เกิน 2 คัน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่ถ้ามีอุบัติเหตุกับรถยนต์มากกว่า 2 คันขึ้นไป ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เป็นบุคคลที่ 3 จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ที่เรียกกันว่า ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ก็คือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 , 2+ , 3+ , ชั้น2 , ชั้น3 นั่นเอง
ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์
การต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ สามารถทำได้หลากหลายวิธี และเอกสารที่ใช้ก็ไม่ยุ่งยากเหมิือนสมัยก่อน แถมระบุราคาชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ดังนั้นเรามาดูกันว่า ซื้อ พรบ.รถยนต์ จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ใช้เงินเท่าไหร่ และสามารถทำได้ที่ไหนบ้าง ดังนี้
ต่อ พรบ.รถยนต์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- ทะเบียรถ หรือ สำเนาทะเบียนรถ
- บัตรประชาชน หรือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
ต่อ พรบ.รถยนต์ ราคา
- พรบ.รถยนต์ ราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของรถ โดยมีรายละเอียดดังนี้
รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) = 645.21 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง รถตู้ = 1,182.35 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 15 คน ไม่เกิน 20 ที่นั่ง = 2,203.13 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 20 คน ไม่เกิน 40 ที่นั่ง = 3,437.91 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 40 ที่นั่ง = 4,017.85 บาท
รถยนต์บรรทุกไม่เกิน 3 ตัน (ปิคอัพ) = 967.28 บาท
รถยนต์บรรทุกเกิน 3 ตัน ถึง 6 ตัน = 1,310.75 บาท
รถยนต์บรรทุกเกิน 6 ตัน ถึง 12 ตัน = 1,408.12 บาท
รถยนต์บรรทุกเกิน 12 ตัน = 1,826.49 บาท
ต่อ พรบ รถยนต์ ที่ไหนดี
- เดินทางไปที่ กรมการขนส่งทางบก โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ รับบัตรคิว และนั่งรอเรียก ควรเตรียมเอกสารให้พร้อม เนื่องจากมีหลายท่านนั่งรอเป็นชั่วโมง พอถึงคิวตนเองเอกสารไม่ครบ โดนไล่กลับบ้านไปเอาเอกสารกันทั่วหน้า ดังนั้นผมบอกไปแล้วว่าใช้อะไรบ้าง ก่อนออกจากบ้านก็ตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อยด้วยนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาฟรีๆ
- ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการเข้าไปที่เว็บไซต์ : ต่อ พรบ.รถยนต์ ออนไลน์ และทำตาม 4 ขั้นตอนดังนี้
– ขั้นตอนที่1 ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ เพื่อกรอกข้อมูลและยืนยันตัวตน สมัครเพียงแปปเดียวเท่านั้น
– ขั้นตอนที่2 กรอกข้อมูลทั่วไปให้ครบถ้วน ( ย้ำว่าข้อมูลขอให้เป็นข้อมูลจริง เพื่อสะดวกในการจัดส่งเอกสาร )
– ขั้นตอนที่3 กรอกข้อมูลรถยนต์ ทะเบียนรถ และผู้ครอบครองรถยนต์
– ขั้นตอนที่4 ชำระเงินผ่านบัครเครดิต หรือนำ reference no. ไปชำระได้ที่เคาน์เตอร์ธนาคารหรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส เมื่อทำการชำระเรียบร้อยแล้ว กรมขนส่งทางบก จะส่งเอกสาร พ.ร.บ. รถยนต์ และ ทะเบียนรถ ทางไปรษณีย์มาสถานที่ที่ท่านกรอกข้อมูลเอาไว้ภายใน 7 วันทำการ
การทำ พรบ รถยนต์ เป็นความจำเป็นอย่างมาก ยิ่งกฎหมายบังคับทำให้เราต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด อันที่จริงไม่บังคับเราก็สมควรทำนะครับ เพราะก็เห็นอยู่ว่าประโยชน์ที่ได้รับเกิดข้อดีกับตัวเราเองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองคู่กรณี และยังสามารถใช้ได้ทันทีที่เกิดเหตุ โดยไม่ต้องรอตรวจสอบใดๆทั้งสิ้น หากใครที่กำลังจะปล่อย พรบ.รถยนต์ ให้ขาดอายุ ผมแนะนำรีบไปต่อให้เรียบร้อยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : kapook.com
เรียบเรียงโดย : ประกันภัยรถยนต์