5 วิธีเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับแบตเตอรี่รถตามสภาพอากาศ
คนยังต้องพักผ่อนนอนหลับ เพื่อชาร์ทกำลังให้กับตนเอง รถก็เหมือนกันแต่รถไม่ได้นอนหลับเหมือนคน เพราะรถมีแบตเตอรี่ ที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งสำรองไฟฟ้าเพื่อส่งกำลังไฟไปทำงานรอบตัวรถ หลายๆครั้งที่ผู้ขับขี่จะพบได้ว่าปัญญาที่เกิดจากแบตเตอรี่ เป็นหลักทำให้รถไม่สามารถขับไปได้ต่อ หรือสตาร์ทไม่ติด
ซึ่งถ้าสภาพอากาศ ณ ตอนนั้นมีอากาศเย็น สบาย ฝนตกพรำๆ ก็ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่สักเท่าไหร่ แต่ประเทศไทยเมื่ออากาศร้อนทีนี้หูดับตับไหม้กันเลยทีเดียว จะทำให้แบตเตอรี่รถของเราเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นเรามาดูกันว่า 5 วิธีเตรียมตัวรับมือกับแบตเตอรี่รถตามสภาพอากาศ ทำกันยังไง
เปิดกระโปรงรถ : เวลาเราขับรถระยะทางไกล เราจะสังเกตได้ว่าห้องเครื่องจะมีความร้อนสูง สามารถสัมผัสได้แค่เดินผ่านหน้ารถเวลาเราพึ่งจอดรถใหม่ๆ โดยเฉพาะหน้าร้อน ไม่ต้องขับไปไหนไกล แค่ขับออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวหน้าซอยบ้าน วิ่งไปแค่ไม่เท่าไหร่ เครื่องก็ร้อนแล้ว แดดเปรี้ยงๆแบบนี้ หากเพื่อนๆไม่ช่วยระบายอากาศโดยการเปิดฝากระโปรงทิ้งไว้สักพัก ในห้องเครื่องจะอมความร้อน ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งาน
ตรวจสภาพรถทุกเช้า : ปกติแล้ว ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกลเราจะต้องหมั่นตรวจสภาพรถก่อนเดินทาง ต้องทำให้เป็นนิสัย เพื่อความปลอดภัยของเราเอง ยิ่งถ้าสภาพอากาศร้อนๆ ยิ่งต้องหมั่นตรวจสภาพรถมากขึ้น อาทิเช่น แบตเตอรี่ หรือของเหลวต่างๆ ดูระดับน้ำว่ายังมีอยู่ไหม เติมให้พอดีขีดที่กำหนดไว้ ขั้วสายต่างๆยังเสียบหนาแน่นดีหรือเปล่า น้ำกลั่นเหลือเท่าไหร่ ดูให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
แบตเตอรี่ที่เหมาะสม : หากเพื่อนๆท่านไหนที่นำไปเปลี่ยนที่ศูนย์รถก็ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่นัก นอกซะจากเพื่อนๆที่ไปเปลี่ยนอู่นอก หรือ ทำการซื้อมาเปลี่ยนเอง เพื่อนจะต้องสังเกตด้วยว่า แบตเตอรี่ที่ซื้อมา ผลิตเมื่อไหร่ เพราะบางร้านแอบให้ของเก่ามาบางคนไม่สังเกตใช้แปปเดียวก็ไม่เก็บไฟแล้ว อีกอย่างถ้าเลือกแบตเตอรี่ที่กำลังไฟต่ำกว่าขนาดที่กำหนดจะทำให้แบตเตอรี่ต้องรับภาระหนักและเสียหายในที่สุด
หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด : ไม่เพียงเพราะห้องเครื่องที่ได้รับความเสียหายจากแสงแดด ตัวถังรถ สีรถ ภายในห้องโดยสารรถยนต์ ก็ได้รับความเสียหายไปด้วย อาทิเช่น คอนโซลจะเสื่อมสภาพและสีซีด ห้องเครื่องจะอมความร้อน และทำให้การทำงานของเครื่องยนต์หนักมากขึ้นอีกด้วย
ชำระล้างคราบสกปรก : การใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนใช้รถค่อนข้างสมบุกสมบัน บางคนใช้น้อยขับในเมืองนิดหน่อย ไม่ว่าเพื่อนๆจะขับน้อยหรือมากเพียงใด จะต้องทำความสะอาดบ้าง ไม่เว้นแม้แต่ห้องเครื่องยนต์ เพราะคราบสกปรกจะไปขัดขวางการทำงานของเครื่องยนต์และระบบไฟได้ อีกอย่างถ้าไม่เคยทำความสะอาดเลย คราบจะออกยากและเป็นที่ชอบของสัตว์ต่างๆ อาทิเช่น หนู งู จิ้งจก เป็นต้น
แบตเตอรี่ก็เช่นกัน การรักษาความสะอาดของแบตเตอรี่ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่หาผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าและเช็คบริเวณแบตที่สามารถล้วงเข้าไปได้ ส่วนตรงขั้วแนะนำให้ค่อยๆเช็ครอบๆที่ละขั้ว เพราะแบตเตอรี่เมื่อมีคราบสกปรกมาเกาะ อากาศร้อนจะทำให้คราบฝังและเช็คออกยาก หรือเรียกกันว่า ขี้เกลือขึ้นขั้วแบต
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ สำหรับ 5 วิธีเตรียมตัวรับมือกับแบตเตอรี่รถตามสภาพอากาศ ที่ผมได้แนะนำไป อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าจะออกไปไหนควรเช็คทุกซอกทุกมุมก่อนออกเดินทาง ออกเดินทางช้าแต่ชัวร์ แล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดรถกันบ้างนะครับ เวลาขับออกไปเจอเพื่อนๆร่วมทาง รถเราจะได้หล่อๆสวยๆ น่าจับตามองกันเลยทีเดียว
แนะนำโดย : www.easyinsurebroker.com
ขอบคุณรูปภาพจาก : pd , moremove , thaicarnews