หม้อน้ำรถยนต์
หม้อน้ำรถยนต์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อรถยนต์เอามากๆเลยใช่ไหมละครับ ดังนั้นถ้าหากเพื่อนๆปล่อยปะละเลย อาจทำให้มีปัญหาตามมา อาทิเช่น หม้อน้ำร้อน มีควันขึ้น ผมว่ามีหลายๆคนเคยเจอปัญหาเหล่านี้ วันนี้ผมเลยนำความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์และความหมายของหม้อน้ำรถยนต์กันว่า มันคืออะไร
หม้อน้ำรถยนต์คืออะไร
น้ำ ทำให้เราเย็น ร้อน ดับด้วยน้ำ เครื่องยนต์เมื่อขับเคลื่อนมีการเสียดสี ต้องมีความร้อน หม้อน้ำรถยนต์จึงเป็นตัวช่วยในการดับร้อนให้เครื่องยนต์ โดยทั่วไป รถยนต์จะใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน หม้อน้ำรถยนต์จึงเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับรถยนต์ และจะต้องตรวจสอบระดับน้ำไม่ให้ต่ำเกินไป เพื่อให้ระบบระบายน้ำของหม้อน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยหรือดูแค่สัปดาห์ละครั้งก็ได้ ประเทศไทย เขตเมืองร้อน ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก ระบบหม้อน้ำต้องทำงานหนักตามการขับขี่ว่าบ่อยหรือไม่บ่อย เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
วิธีดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์
ปัจจุบันระบบเทคโนโลยีล้ำไปถึงขนาดวัดความร้อนของหม้อน้ำได้อย่างแม่นยำแล้ว ซึ่งจะสังเกตุได้จากหน้าปัดรถยนต์ โดยทั่วไปจะออกแบบให้เป็นตัว C เท่ากับ cool แปลว่าเย็น อันนี้ถือว่าดีแต่ถ้า H เท่ากับ Hot แปลว่าร้อน อันนี้ต้องดูแลเป็นพิเศษ จะเห็นได้จากรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานยิ่งนานยิ่งร้อน เพราะประสิทธิภาพจะลดลงตามการใช้งาน อยู่ที่เราจะดูแลดีแค่ไหน
ยิ่งถ้าออกต่างจังหวัด หรือเดินทางไกล จะต้องตรวจ หม้อน้ำรถยนต์เป็นพิเศษ ให้อยู่ขีดที่กำหนด ถ้าระดับเตือนว่า H เราควรพักรถสักพักแล้วเปิด ฝาหม้อน้ำตรวจสอบระดับน้ำ ควรระวังอย่าเปิดตอนร้อนจัด เพราะน้ำอาจจะพุ่งทำให้เกิดอันตรายได้ และถ้าปล่อยให้ร้อนจนมีควันอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
การเติมน้ำในหม้อน้ำรถยนต์ เติมอย่างไร
ตามที่ได้บอกไปข้างต้นว่าสิ่งที่ควรระวังคือการเปิดฝาหม้อน้ำ ขณะเครื่องกำลังร้อนจัดๆ เพราะน้ำจะพุ่งทำให้เกิดอันตราย แต่โดยทั่วไปรถยนต์รุ่นใหม่ๆจะเป็นหม้อน้ำสำรองมีสายต่อจากหม้อน้ำหลักโดยไม่มีฝาเปิดที่หม้อน้ำหลัก แต่จะดึงน้ำสำรองจากหม้อน้ำสำรองมาใช้แทน ทำให้เราสามารถตรวจเช็คได้ง่ายๆ สังเกตุได้จากระดับน้ำโดยดูที่ MIN และ MAX
ห้ามให้ระดับน้ำต่ำกว่า MIN และห้ามเติมเกินระดับ MAX เพราะจะทำให้ไม่มีช่องอากาศ ทำให้น้ำดันออกและร้อนง่าย เวลาเติมให้เติมหม้อน้ำหลักก่อนให้เต็มขีดแล้วค่อยเติมหม้อน้ำสำรองตามระดับที่กำหนด แต่ถ้ารถยนต์รุ่นเก่าบางรุ่นจะต้องเติมในหม้อน้ำหลักโดยตรงก็ต้องเติมให้ได้ระดับ และหมั่นตรวจสม่ำเสมอ โดยน้ำที่เติมต้องเป็นน้ำสะอาดไม่มีฝุ่นละอองหรือสิ่งเจือปน เพราะเมื่อระบบระบายทำงานอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
นอกจากการดูแลรักษาแล้ว ควรจะเปลี่ยนถ่ายหม้อน้ำทุกๆ 4-5 เดือน หรือเรียกภาษาบ้านๆว่า ล้างหม้อน้ำ เพราะหม้อน้ำเป็นโลหะอาจมีการเกิดสนิมและผุกร่อน ทำให้น้ำรั่วออกจากหม้อน้ำ และควรตรวจสอบเช็คระบบหม้อน้ำและระบบหล่อเย็นอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้งหรือหากไหวก็ทำทุกๆ 4-6 เดือนก็ได้ เผื่อความปลอดภัยในการใช้รถยนต์ เพราะหากเกิดการรั่วตรงจุดใดจุดหนึ่งระบบระบายความร้อนจะมีปัญหาและส่งผลไปยังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องพังได้ ไม่คุ้มเลยใช่ไหม ยกเครื่องไม่ใช่ใช้จำนวนเงินน้อยๆเลย ดังนั้นการตรวจสอบเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ หรือถ้าไม่กล้าจะตรวจสอบด้วยตนเอง แนะนำเสียเงินเล็กน้อยให้ช่างชำนาญการตรวจสอบของเหลวให้ ดีกว่าต้องมาเสียเงินจำนวนมากยกเครื่องยนต์ใหม่ทั้งเซ็ต
เรียบเรียงโดย ซื้อ,หา,ทำ,ผ่อนประกันภัยรถยนต์ราคาถูกที่ไหนดี
