วิธีแก้ง่วง
วิธีแก้ง่วง ปัจจุบันมีเคล็ดลับหลายวิธีด้วยกัน บ้างก็แนะนำว่าให้กินกาแฟ บ้างก็บอกว่ากินชา แต่ก็มีหลายคนที่มักทำตามแต่ไม่ได้ผล ซึ่งมันก็เป็นความจริงครับ เพราะว่าร่างกายของแต่ละคนมีประสิทธิภาพแตกต่างกัน และก็ยังไม่มีใครออกมายืนยันได้ว่าไม่มีใครไม่เคยง่วง เพราะมันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
นอกจากความง่วงจะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ยังมีปัญหาอื่นๆตามมาด้วย เช่น ง่วงตอนทำงาน ง่วงตอนเช้า หรือง่วงตอนประชุม ยังส่งผลถึงการเข้าสังคม โดยสาเหตุหลักในการทำให้ง่วงของคนส่วนใหญ่มาจากการนอนดึก ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Social Media หรือเล่นเกมส์ดึก คุยโทรศัพท์กับแฟน โรคประจำตัว ฯลฯ ทำให้เวลานอนหลับไม่เพียงพอตื่นมาแล้วไม่สดชื่น แต่นั้นคงไม่เป็นปัญหาใหญ่กว่าการง่วงระหว่างขับรถ เพราะถือว่าอันตรายมากเลยทีเดียว
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง : อาการหลับในขณะขับรถ 5 เทคนิคพิชิตอาการง่วงขณะขับรถ
หลับใน
อาการหลับใน มักพบว่าเกิดขึ้นกับผู้ที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือขับรถเส้นทางตรงยาวๆ ทำให้เพลินแล้วเกิดอาการง่วง สังเกตได้จากการหาว หากเราหาวบ่อยนั่นแปลว่าคุณกำลังง่วง ให้หาที่พักข้างทางจอดพักสายตาทันที แต่ควรหาที่พักที่ไม่อันตรายหน่อย เช่น ปั๊มน้ำมัน สถานที่สว่างๆ ไม่ใช่ไปจอดนอนที่มืดๆ นอกจากจะโดนโจรย่องมาขโมยอะไหล่รถแล้ว อาจโดนฆ่าหมกป่าเลยก็ได้นะ
ทำไมต้องง่วง
เป็นคำถามที่ดีแม้จะดูกวนใจไปบ้าง ถามว่าทำไมต้องง่วงไม่ง่วงได้ไหม ไม่มีใครหนีความง่วงได้หรอกครับ ง่วงน้อยง่วงมากก็คือการง่วงนอนอยู่ดี เราก็ต้องหาวิธีแก้ง่วง เพราะบางคนยังไม่ถึงตอนกลางคืนเลยง่วงแล้ว หาวแล้วหาวอีก แต่ควรง่วงในที่ๆเหมาะสมไม่ใช่บางคนขับรถแล้วง่วง หรือกำลังทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกลแล้วง่วง อันตรายถึงชีวิตเลยนะครับ การง่วงเกิดจากการที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอหรือเป็นโรคประจำตัวนั่นเองครับ หรืออาจมาจากสาเหตุหลักๆดังนี้
นอนน้อย
คนที่นอนน้อยชอบขอบตาดำ หรือเรียกอีกอย่างว่า สาวกหมาแพนดี้ เอ้ยหมีแพนด้า เอ้ยถูกแล้ว ฮ่าๆๆ ทำไมถึงนอนน้อยหล่ะ เอาเวลาไปทำอะไรกันหมดนะ ผมคิดว่าการนอนหลับในระยะเวลาที่พอเหมาะสมช่วยให้สุขภาพเราดีขึ้นด้วยนะ ลองบังคับตนเองให้รู้จักนอนให้เป็นเวลา ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้
โดยผมได้นำตารางเวลาการเข้านอน สำหรับคนที่ไม่อยากจะตื่นนอน ง่วงนอนบ่อย ลุกยากงัวเงีย ทุกปัญหาเกี่ยวกับการการง่วงจะหมดไป โดยใช้วิธีแก้ง่วง ตามหลัก Rapid Eyes Movement (REM) ที่กำหนดว่าควรนอนให้ครบทุกๆ 90 นาทีต่อหนึ่งรอบ และการนอนหลับเพื่อไม่ให้ง่วงนอนควรนอนให้ครบ 5-6 รอบ และควรใช้เวลานอนให้หลับภายใน 15 นาที โดยอิงเวลาที่เราต้องการตื่นนอน ดังนี้
เวลาตื่นนอน |
เวลาที่ควรนอน |
ตีห้า | 21.15 / 22.45 / 00.15 |
ตีห้าครึ่ง | 21.45 / 23.15 / 00.45 |
หกโมงเช้า | 20.45 / 22.15 / 23.45 |
หกโมงครึ่ง | 21.15 / 22.45 / 00.15 |
เจ็ดโมงเช้า | 21.45 / 23.15 / 00.45 |
เจ็ดโมงครึ่ง | 22.15 / 23.45 / 01.15 |
แปดโมงเช้า | 22.45 / 00.15 / 01.45 |
แปดโมงครึ่ง | 23.15 / 00.45 / 02.15 |
ยังไม่ได้นอน
ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า ทำไมไม่นอนถึงเวลาไม่นอน พอถึงเวลาขับรถจะไม่ให้ง่วงนอนได้ยังไง คิดดูนะครับขนาดหุ่นยนต์ที่ว่าแน่ยังต้องใช้ระบบแบตเตอรี่หรือถ่านอยู่เลย ร่างกายมนุษย์การชาร์จแบตเตอรี่ก็คือการนอนหลับ ถ้าเราฝืนการนอนหลับบ่อยๆก็ทำให้แบตเสื่อม แบตเสื่อมก็ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพการทำงานไม่เต็มที่ และจะทำให้อวัยวะเสื่อมลงจนถึงแก่ชีวิตนั่นเอง
วิธีแก้ง่วงระหว่างขับรถ
วิธีแก้ง่วงขณะขับรถ สำหรับคนที่จำเป็นต้องฝืนขับรถจริงๆ วิธีที่ผมแนะนำถึงจะดีแค่ไหนแต่ก็คงไม่เท่ากับการได้นอนพักผ่อนอยู่ดี แต่ถ้าในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เราก็ต้องหาวิธีแก้ง่วงให้ถูกจุด เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เราหลับในจนเกิดอุบัติเหตุต่อตัวเราแล้ว ยังไม่ไปส่งผลอันตรายต่อผู้อื่นอีกด้วย
โรคลมหลับ
โรคลมหลับ (Narcolepsy) คือโรคที่มีอาการง่วงนอนตลอดเวลา เป็นโรคที่เกี่ยวกับการนอนหลับสามารถนอนหลับในช่วงที่ไม่ควรหลับ อย่างเช่น เวลาทำงาน เดินๆอยู่ก็ง่วง หรือบางครั้งนั่งๆอยู่เหมอเหมือนมีอาการคล้ายหลับใน อาการหนักก็อาจจะกล้ามเนื้ออ่อนแรง คอตก มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาคล้ายคนท้อง ไม่ว่าจะนอนมาเพียงพอมากเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกง่วงนอนบ่อยอยู่ดี
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ วิธีแก้ง่วง ที่ผมนำมาแนะนำในวันนี้ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่ผมย้ำว่าไม่เท่ากับการได้นอนหลับพักผ่อน เวลาให้ร่างกายได้ชาร์จแบตพักผ่อนบ้างนะครับ เพียงแค่ควบคุมเวลานอนตามที่ผมได้นำมาแนะนำ รับรองว่าเห็นผลแน่นอนในเรื่องของสุขภาพที่ดีขึ้น สมองไม่เบลอ ขอบตาหายดำ สดชื่นทุกครั้งเมื่อตื่นนอน แล้วเข้าสังคมได้อย่างมั่นใจครับ
แนะนำโดย : ประกันภัยรถยนต์