028019000 [email protected]

ล้างรถ

เมื่อเข้าสู่หน้าฝนหลายคนมักไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ เพราะเวลาฝนตกทีไรทำให้รถของเราเลอะเทอะทุกทีการ ล้างรถ เป็นสิ่งที่เราควรทำให้ถูกวิธี และใช้อุปกรณ์ล้างรถที่ถูกต้อง เพราะคราบน้ำฝนมีกรดที่สามารถทำลายพื้นผิวสีรถของเราได้ และวิธีล้างรถที่ทำให้น้ำฝนไม่เกาะสีรถทำยังไงดี

ล้างรถ

ล้างรถที่คาร์แคร์ราคาก็แพงพอสมควร ดังนั้นหากเราเรียนรู้ที่จะล้างรถเอง เราจะประหยัดค่าใช้จ่ายไม่น้อย ถึงแม้ว่าครั้งแรกเราจะต้องลงทุนเรื่องของอุปกรณ์ล้างรถ แต่หลังจากนั้นผมรับประกันเลยว่าจะคุ้มค่ากว่าแน่นอน ฉะนั้นเราควรเตรียมอุปกณ์อะไรบ้างในการล้างรถด้วยตนเอง พร้อมคลิปวีดีโอวิธีล้างที่เข้าใจง่ายๆเลยมาดูกันครับ

อุปกรณ์ล้างรถ

  • น้ำยาล้างรถ เช่น น้ำยาล้างจาน หรือ น้ำยาเนกประสงค์
  • ฟองน้ำล้างรถ
  • ผ้าเช็ครถ
  • สายยางล้างรถ
  • เครื่องอัดฉีด
  • แชมพูล้างรถ (ชนิดถนอมตัวสีรถ)
  • ถังน้ำ กรณีที่เครื่องอัดฉีดไม่มีกระปุกน้ำยา

วิธีล้างรถ

สำหรับวิธีและขั้นตอนในการล้างรถด้วยตนเอง โดยใช้น้ำยาล้างจานที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป หรือน้ำยาล้างรถแบบแชมพู ไม่ว่าจะใช้น้ำยาเอนกประสงค์แบบไหนก็แล้วแต่ นอกจากการเตรียมอุปกรณ์ล้างรถให้พร้อมแล้ว การล้างรถที่ถูกวิธียังช่วยให้รถของเราเงางาม แถมประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องไปล้างรถที่คาร์แคร์อีกต่อไป รับรองว่าคุณจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างแน่นอน เรามาดูกันว่ามีวิธีอย่างไรบ้าง

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

สำหรัับการเตรียมอุปกรณ์ในการล้างรถ เราควรเตรียมให้พร้อมตั้งแต่แรก เนื่องจากว่าเวลาเรากำลังอยู่ในขั้นตอนการล้างรถ เราไม่ควรไปวิ่งหาอุปกรณ์ทีละชิ้นทีละอัน เพราะว่าจะทำให้คราบฝังสีรถแล้วล้างออกยาก ทำให้เราต้องมาล้างใหม่อีกรอบ และการทิ้งให้น้ำยาล้างรถแห้งเป็นคราบฝังลึก ทำให้สีรถยนต์เกิดความเสียหายได้อีกด้วย

2. ผสมน้ำยาล้างรถในถังที่เตรียมเอาไว้

เมื่อเราเตรียมอุปกรณ์ครบทุกชิ้นแล้ว ให้เราใส่น้ำในถังประมาณ 2/4 ของถังน้ำ ผมแนะนำว่าให้แยกเป็น 2 ถังสำหรับเช็คบังโคลนล้อ,ล้อรถและยางรถยนต์ กับ ตัวสีรถยนต์ เพราะการใช้ถังน้ำเดียวกันล้างรถอาจทำให้เศษฝุ่นเศษหินที่เกาะตามบังโคลนและแม็กรถยนต์ มาขูดขีดสีรถทำให้สีรถของเราเกิดความเสียหายได้ ส่วนการผสมน้ำยาควรผสมในปริมาณที่กำหนดไว้ข้างขวด

น้ำยาล้างจานก็ใช้ได้นะครับ เพราะน้ำยาล้างจานไม่ทำลายชุดสีรถของเราและยังมีค่าเป็นกลางไม่เป็นทั้งกรดและด่าง ขนาดจานข้าวของเรายังหายมันเลย หมดคราบแน่นอนถ้าเอามาใช้ล้างรถเอง ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยนะ หรือถ้าใครไม่มั่นใจก็ไม่เป็นไร ไปหาซื้อแชมพูล้างรถ ตามห้างสรรพสินค้า ร้านขายน้ำยาล้างรถทั่วไป ถึงราคาจะแพงกว่าแต่ก็สามารถเคลือบสีรถให้เราได้อีกด้วย

3. ฉีดไล่คราบสกปรกบนตัวสีรถ

ผสมน้ำยาเรียบร้อยแล้วเราก็ไล่ฉีดคราบสกปรกให้ทั่วตัวรถ เพื่อไม่ให้คราบสกปรกฝังบนตัวรถแล้วเวลาเราใช้ฟองน้ำล้างรถ จะทำให้เศษต่างๆติดกับฟองน้ำและถูบนสีรถทำให้เกิดรอยขูดขีดได้ง่าย ดังนั้นควรฉีดให้ทั่ว ยิ่งถ้ามีเครื่องอัดฉีดยิ่งดีเลยแต่ปรับหัวให้กระจายหน่อยนะ อย่าให้ฉีดแรงไปนะ เพราะทำให้สีหลุดได้เหมือนกันครับ

4. ล้างรถด้วยแชมพู

ขั้นตอนนี้ให้ใช้ฟองน้ำล้างรถหรือผ้าจุ่มลงในถังที่เตรียมไว้สำหรับล้างแม็กล้อและยางรถยนต์ ฉโลมแชมพูและถูให้ทั่ว รวมถึงบังโคลนซุ้มล้อด้วย ส่วนล่างที่ไม่ใช่ชุดสี เช็คให้หมดและล้างออกด้วยน้ำเปล่าทันที เพื่อไม่ให้คราบฝังและค่อยใช้ฟองน้ำอีกอันจุ่มน้ำยาล้างรถถูให้ทั่วและรีบล้างออกทันที อย่าให้ทิ้งคราบไว้นาน

ข้อควรระวัง : ไม่ควรล้างรถขณะมีแดดร้อนจัดเพราะอาจทำลายสีรถได้ ทำให้น้ำยาแห้งเร็วอีกด้วย และจะล้างไม่ทันนะขอบอก

5. ล้างรถด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด

ให้เราใช้น้ำล้างให้ทั่วเอาให้น้ำยาล้างรถหมดทุกซอกทุกมุมเลยยิ่งดี บางคนอาจจะใช้ขันตักน้ำ แต่ผมแนะนำสายยางล้างรถ ที่ทำให้เราสะดวกมากขึ้น เพราะเราสามารถล้างรถโดยลากสายยางไปได้ทั่วตัวรถไม่ต้องวิ่งตักน้ำ เหนื่อยและยังทำให้เสียเวลาอีกด้วย เมื่อล้างเรียบร้อยให้ทำตามขั้นตอนต่อไป

6. ใช้ผ้าเช็ครถเช็คให้ทั่ว แนะนำว่าควรมีผ้ามากกว่า 1 ผืน

เมื่อเราล้างรถเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าสะอาด ย้ำว่าสะอาดคือไม่ควรนำผ้าที่ใช้สำหรับเช็คอย่างอื่นหรือผ้าขี้ริ้วมาเช็ค เพราะอาจมีเศษฝุ่นปะปนอยู่ได้ หรือถ้าให้แนะนำหาซื้อผ้าชามัวร์ เพราะสามารถดูดซับน้ำได้เป็นอย่างดี บิดแล้วเช็คต่อได้เลย แล้วค่อยใช้ผ้าเช็ครถเช็คอีกครั้ง แค่นี้ก็ทำให้รถของเราไม่มีน้ำขังอีกด้วย อย่าลืมเปิดประตูเช็คตามซอก หรือถ้ามีเครื่องเป่าลม ก็เป่าให้แห้งยิ่งดี เพราะการที่เราเช็คไม่แห้ง อาจทำให้อุปกรณ์บางส่วนขึ้นสนิมอีกด้วย

7. น้ำยาเคลือบสีรถ หรือแว็กซ์รถ เพื่อถนอมสีรถยนต์ของเรา

ให้ใช้ฟองน้ำที่เป็นแบบกลมๆ เทน้ำยาเคลือบและถูวนๆ ทิ้งไว้สัก 4-5นาทีแล้วรีบใช้ผ้าเช็คออก แค่นี้ก็ทำให้รถของเราเงางามอีกด้วย ส่วนภายในผมแนะนำใช้น้ำยาเคลือบเบาะ เช็คคอนโซนและเบาะให้เกิดความเงางาม ค่อยๆเช็คไล่จากคอนโซนไปถึงด้านหลังรถ ไม่ควรเคลือบเวลากลางคืนหรือที่ไม่มีแสงเพียงพอ เพราะจะทำให้เกิดความยากในการเคลือบ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆสำหรับการ ล้างรถ ที่ไม่ต้องง้อคาร์แคร์เลย เราทำกันเองได้ง่ายๆแถมรถของเรา เวลาเราล้างก็ถือเป็นการออกกำลังกายอีกด้วย ถ้าให้เปรียบเทียบบางทีการที่เราล้างรถเองผมว่าสะอาดกว่าคาร์แคร์อีกนะ เพราะเราจะเช็คทุกซอกทุกมุม แต่ถ้าคาร์แคร์มานั่งเช็คแบบเราคงไม่พอกินกันพอดี ยังไงก็ขอฝากไว้เท่านี้ครับ ชอบและเป็นประโยชน์ก็กดแชร์ให้เพื่อนๆได้นะครับ


ขอบคุณคลิปวีดีโอ : Toast Tube Channel
แนะนำโดย : Easyinsurebroker