ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี
ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี มักเป็นคำถามที่เราจะพบได้ตามโลกออนไลน์ อาทิเช่น ทำประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ต่อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ซึ่งคำถามเหล่านี้ ผู้ให้คำปรึกษาจะหนักใจมากๆ เพราะถ้าเกิดไปบอกว่า บริษัทประกันภัยรถยนต์ แห่งนี้ดีก็จะหาว่าอวยกัน แต่ถ้าบอกว่า บริษัทประกันภัย แห่งนี้ไม่ดีก็หาว่าใส่ความกันอีก ดังนั้นคำถามเหล่านี้จะพบเจอกันใน pantip ซะส่วนใหญ่ในธุรกิจ ประกันภัยรถยนต์
ประกันรถยนต์ที่ไหนดี ไม่ถือว่าเป็นคำถามที่พบบ่อยที่สุด เพราะยังมีอีกหลายคำถามที่มักจะพบกันใน pantip อาทิเช่น ซื้อประกันชั้น 1 ที่ไหนดี ผ่อนประกันชั้น 2+ ที่ไหนดี ต่อประกันชั้น 3+ ที่ไหนดี หรือ ทำประกันชั้น 3 ราคาถูก คำถามเหล่านี้จะพบในทุกๆปี และเป็นคำถามเดิมๆ แต่คำตอบอาจเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้านั่นเอง ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันว่า ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ฉบับ 2019 หรือ 2562 เราจะได้พบคำตอบว่า ซื้อประกันภัยรถยนต์ ผ่อนประกันภัยรถยนต์ ทำประกันภัยรถยนต์ ต่อประกันภัยรถยนต์ กับ บริษัทประกันรถยนต์ที่ไหนดี หรือ โบรกเกอร์ประกันภัยที่ไหนดี
เทคนิคการเลือกซื้อ ประกันรถยนต์ที่ไหนดี 2019
เทคนิคในการเลือก ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ฉบับ 2562 มีทั้งหมด 5 ข้อดังนี้
-
เลือกบริษัทประกันภัย ที่มีความเชื่อถือ โดยสามารถดูรายละเอียดได้จาก คปภ. เพราะทาง คปภ จะสามารถให้ข้อมูลทุกๆอย่างที่เราถามได้อย่างแม่นยำ เพราะมีข้อมูลทุกบริษัท อาทิเช่น ทุนจดทะเบียน บริการหลังการขายเป็นยังไง เคลมมีปัญหาไหม เป็นต้น
-
เลือกบริการเคลมประกัน อาทิเช่น ศึกษาข้อมูลการ ซ่อมอู่ และ ซ่อมห้าง แตกต่างกันอย่างไร และเมื่อเลือกได้ว่าจะซ่อมในรูปแบบไหน ก็นำไปตัดสินใจร่วมกับการเลือกบริษัทประกันภัย
-
ฉลาดเลือก เลือกประเภทประกันภัย ที่เหมาะสมกับรถของเรา อาทิเช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 2+ 3+ ชั้น3 ที่ไหนดี
-
เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เปรียบเทียบตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เลือกข้อเสนอ แคมเปญ ความคุ้มครอง ที่ตรงต่อความต้องการของเรา
-
ใช้เทคนิคประกันในการ ลดราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เพื่อให้เราสามารถซื้อ ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ราคาถูก และบริการที่ดีที่สุด ( รู้แบบนี้แล้ว บอกเลยว่าถ้ารู้เทคนิคประกันเพียงเล็กน้อย ก็มีชัยไปมากกว่าครึ่ง )
1. เลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่มีชื่อเสียง และ เชื่อถือได้
ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี 2018 เกี่ยวกับการเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่มีชื่อเสียงและสามารถเชื่อถือได้ เป็นการตัดสินใจที่ต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิคประกันเล็กน้อย เพราะถ้าหากว่าเราตัดสินใจไปแล้ว จะมีระยะเวลา 1 ปี หากตัดสินใจผิด แปลว่า เราเสียเวลากับบริษัทประกันที่บริการย่ำแย่และไม่มีคุณภาพถึงหนึ่งปีเต็ม ดังนั้นเรามาดูข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดของ 5 บริษัทประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำกันเถอะ
ส่วนแบ่งตลาดเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงประเภทรถ ประจำไตรมาส : ไตรมาส 1 ปี 2561 โดยความสมัครใจ (ประกันภัยภาคสมัครใจ)
บริษัท | เบี้ยประกันภัย(รับโดยตรง) | ส่วนแบ่งตลาด(ร้อยละ) |
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) | 6,952,270 | 26.09 |
บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) | 1,896,268 | 7.12 |
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) | 1,714,419 | 6.43 |
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) | 1,602,584 | 6.01 |
บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) | 1,521,396 | 5.71 |
ขอบคุณแหล่งที่มาของตารางเบี้ยประกันภัยรับ : กรมขนส่งทางบก ( http://www.oic.or.th/th/ )
จากตารางที่ผมได้แนะนำไปข้างต้น เพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินชื่อกันอยู่บ้าง เพราะเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ได้บอกว่าบริษัทประกันภัยรถยนต์แห่งอื่นไม่มีคุณภาพ เพราะบริษัทน้องใหม่มาแรงก็เยอะแยะ หรือจะเป็น นายหน้าประกันภัย ที่ตอนนี้ถือได้ว่ามาแรงเช่นกัน โดยเราจะยกตัวอย่างข้อมูลที่ได้มาจากผู้สอบถามกันใน Pantip เกี่ยวกับเรื่อง ประกันรถยนต์ที่ไหนดี Pantip
ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี Pantip
วันนี้ผมจะขอยกตัวอย่างการเปรียบเทียบบริษัทประกันชั้นนำ 2 แห่ง คือ วิริยะประกันภัย กับ กรุงเทพประกันภัย ที่ไหนดีกว่ากัน โดยการเปรียบเทียบครั้งนี้นำข้อมูลมาจาก pantip และไม่มีการสร้างเนื้อหาขึ้นมาเพื่อสร้างภาพแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่ผู้ทำ ประกันภัยรถยนต์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า บริษัทประกันภัยที่ไหนดีกว่ากัน ซึ่งข้อมูลที่นำมาเป็นเพียงข้อคิดเห็นของสมาชิกในเว็บ พันทิป โปรดใช้เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเท่านั้น อย่าหลงเชื่อ 100% เพราะบางข้อมูลไม่อาจเชื่อถือได้ทั้งหมด เกี่ยวกับ ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี พันทิป
ตัวอย่างที่ 1 : ราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์ แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งต้องหาข้อมูลเรื่องการ เคลมประกันภัยรถยนต์
ตัวอย่างที่ 2 : จะเห็นได้ว่า กรุงเทพประกันภัยรถยนต์ ได้เปรียบ วิริยะประกันภัยรถยนต์ ในเรื่องของการ เคลมประกันภัย
ตัวอย่างที่ 3 : ดูอวยกรุงเทพประกันภัยไปหน่อย แต่ก็ถือว่า เบี้ยประกันภัย แพงกว่า ประกันวิริยะ อยู่ดี
ตัวอย่างที่ 4 : ลูกค้าที่เคยใช้บริการของ วิริยะประกันภัย ไม่พึงพอใจในเรื่องของ บริการ และค่า เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ทำให้มีคำถามว่า ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี
ตัวอย่างที่ 5 : สุดท้ายนี้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าคำนึงถึงคือ บริการฟรี บริการเสริม เบี้ยประกันภัยราคาถูก และ การเคลม
2. เลือกบริการเคลมประกัน อาทิเช่น ซ่อมอู่ ซ่อมห้าง แตกต่างกันอย่างไร
ประกันรถยนต์ที่ไหนดี 2018 เกี่ยวกับเรื่องของการ เคลมประกันภัยรถยนต์ เมื่อเราเลือกบริษัทประกันภัยเรียบร้อยแล้ว ต่อมาคือเลือกว่าเราจะนำ รถยนต์ ของเราเข้า ซ่อมที่ศูนย์บริการ แห่งไหน แต่ถ้าเรื่อง เคลมศูนย์ จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ ซ่อมอู่ และ ซ่อมห้าง โดยจะมีให้เลือกว่าเราจะเข้าซ่อมที่ไหน ขึ้นอยู่กับว่า บริษัทประกันรถยนต์ แห่งนั้นมีศูนย์บริการรับรองมากน้อยเพียงใด ส่วนการเลือกว่าจะเข้าเคลมที่ไหน ก็อยู่ที่ผู้เอาประกันว่าต้องการระดับใด เพราะการเลือกศูนย์เคลมประกัน ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ จะต่างกัน โดยทีมงาน Easy insure broker ของแนะนำว่า ให้เลือกศูนย์บริการดีกว่า เพราะถ้าหากเลือกใกล้บ้าน เพราะสะดวกสบาย แต่ต้องกลับเข้าไปทำสีบ่อยครั้งเนื่องจากงานไม่เนียบ ก็อาจจะทำให้เสียทั้งงานและเวลาอีกด้วย
ดังนั้นเรามาดูกันว่า ข้อดี ข้อเสีย หรือข้อด้อยของ ซ่อมอู่ และ ซ่อมห้าง แตกต่างกันอย่างไร
ซ่อมห้าง : ได้รับความนิยมสูง เพราะส่วนใหญ่จะเก็บงานเนียบมาก และไม่มีปัญหาตุกติกอะไร แค่เบี้ยแพงกว่า ซ่อมอู่ เท่านั้นเอง
ข้อดี
- อะไหล่ที่ซ่อมมาเป็นอะไหล่แท้แน่นอน ยกเว้นว่าอะไหล่รถของเรา เทียมมาก่อน
- การซ่อมห้าง มีผลดีคือ ช่างประจำศูนย์บริการได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจในงานซ่อมได้
- มาตราฐานรองรับ และการเป็นศูนย์บริการ งานจะเนียบและจบในทีเดียว ไม่มีการนำมาเก็บสีใหม่แน่นอน
ข้อเสีย
- ค่าเบี้ยประกันภัย แพงกว่าซ่อมอู่ และในการเคลมประกันบางครั้ง เจ้าของรถ อาจจะต้องเสียค่าบริการอย่างอื่นอีกด้วย เช่น ของเหลวที่จำเป็นต้องเปลี่ยน
- ศูนย์ซ่อมจะต้องรอคิว เพราะคนจะเข้าไปซ่อมกันเยอะ ซึ่งก็มาจากการการันตีงานซ่อมและอะไหล่แท้นั่นเอง
- ถ้าเกิดว่าศูนย์บริการ อยู่ไกลจากที่พักของเจ้าของรถ จะทำให้เสียเวลา และการเดินทางในการไปตรวจงานซ่อม
ซ่อมอู่ : การซ่อมอู่จะมีให้เลือก 2 แบบเช่นกัน คือ อู่ในเครือบริษัทประกันภัย และ อู่นอกเครือบริษัทประกันภัย สองแบบนี้แตกต่างกันตรงที่ อู่นอกเครือบริษัทประกันภัยรถยนต์ ต้องควักเงินก่อนแล้วจึงมาเบิก ซึ่งการเบิกผู้เอาประกันภัยอาจจะไม่ได้รับเงินเต็มจำนวนก็เป็นได้ ส่วนอู่ในเครือบริษัทประกันภัยรถยนต์ ไม่ต้องสำรองเงินแต่อย่างใด เพราะอู่ในเครือจะประสานงานการเคลมประกันให้อัตโนมัติ ดังนั้นเรามาดูกันว่ามี ข้อดี และ ข้อเสีย อย่างไรบ้าง
ข้อดี
- เนื่องจากเป็นอู่ซ่อมทั่วไป ทำให้เราสามารถเลือกที่ไหนก็ได้ ยิ่งถ้าใกล้ๆบ้านก็ยิ่งตรวจสอบง่ายอีกด้วย
- เบี้ยประกันรถยนต์ ราคาถูกกว่า ศูนย์ซ่อมบริการ หรือ ซ่อมห้าง
- ช่างในบางอู่รถยนต์ อาจมีความชำนาญมากกว่าช่างที่อยู่ในศูนย์บริการก็เป็นได้
- อาจจะไม่ต้องรอคิวเหมือน ซ่อมห้าง เมื่อเข้าเคลมประกัน อาจใช้เวลาเพียง 2-3 วันก็เสร็จแล้ว
ข้อเสีย
- อาจจะเกิดปัญหาตามมา เมื่องานเคลมไม่เนียบและต้องแก้
- ผู้เอาประกัน อาจจะได้รับการซ่อมแซมโดยใช้ อะไหล่เทียม ดังนั้นจะต้องดูให้ดีและตรวจงานก่อนออก ไม่ต้องรีบ ตรงไหนไม่โอเค ชี้จุดไปเลย
- หากเจออู่เรื่องมากและงานไม่ดีก็ซวยกันไป ดังนั้นจะต้องหาข้อมูลและดูงานของอู่ด้วย ว่าเป็นยังไง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ซ่อมอู่และซ่อมห้าง แตกต่างกันอย่างไร
3. เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับรถยนต์ของเรา อาทิเช่น ป.1 ป.2 ป.3 ป.2+ ป.3+
ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี 2018 เกี่ยวกับเรื่องของ ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะบางคน ทำประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี และ ทำในราคาแพงด้วย เพียงต้องการทุนประกันที่สูงเกินความจำเป็น ไม่ได้บอกว่าห้าม แต่การทำอะไรที่มันพอดีจะดีกว่าใช่ไหมล่ะ จะได้เก็บตังไว้ลงทุน หรือทำอย่างอื่น เพราะถ้าเราขับรถด้วยความระวัง ก็มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุอยู่ดี ประกันภัยรถยนต์ ถ้าเลือกดีก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง ดังนั้นเรามาดูความคุ้มครองของประกันภัยแต่ละประเภทกันว่า คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ดียังไง เหมาะกับใคร คุ้มครองอะไรบ้าง 2018
ประกันชั้น 1 เหมาะกับ รถป้ายแดง หรือรถยนต์ที่ออกใหม่นั่นเอง เพราะรถรุ่นใหม่ๆจะมีค่าอะไหล่ที่แพงตามเทคโนโลยี และ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็สามารถคุ้มครองได้ครบเครื่องเลยทีเดียว แต่ตั้งชนกระถางต้นไม้ ประตูบ้าน เสาไฟ หรือ อุบัติเหตุร้ายแรงที่มีการสูญเสียเลยทีเดียว ซ่อมทุกอย่างแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นอาจเป็น การชนแบบไม่มีคู่กรณี แต่อาจเสีย ค่าเสียหายส่วนแรก หรือที่เรียกว่า Excess และค่า เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ที่แพงน่าดู
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ให้ความคุ้มครองกรณี : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + สูญหาย + ไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ที่ไหนดี ดียังไง เหมาะกับใคร คุ้มครองอะไรบ้าง 2561
ประกันชั้น 2 เหมาะกับ ผู้ขับขี่ที่มีความชำนาญในการขับรถในระดับหนึ่ง เพราะจะคุ้มครองในเรื่องของ รถชนรถเท่านั้น ซึ่งแปลได้ว่า ชนกับรถที่มีเครื่องยนต์เท่านั้น ชนเสาไฟฟ้า ชนประตูบ้าน ไม่คุ้มครองนะครับ ทุนประกันและความคุ้มครองมีความคล้ายกับ ประกันชั้น 1 แต่มีจุดเด่นตรงที่ ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ถูกกว่า และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น2 ให้ความคุ้มครองกรณี : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา (กรณีรถชนรถเท่านั้น) + สูญหาย + ไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ที่ไหนดี ดียังไง เหมาะกับใคร คุ้มครองอะไรบ้าง pantip
ประกันชั้น 3+ เหมาะกับ ผู้ที่ไม่ต้องการความคุ้มครองในเรื่องของ รถสูญหาย ไฟไหม้รถ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์รุ่นเก่า แต่ไม่มากเท่าไหร่ คุ้มครองแค่ รถชนรถเท่านั้น แต่ค่าเบี้ยประกันจะมี ราคาถูก กว่า ประกันชั้น1 และ ประกันชั้น2+ นั่นเอง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 ให้ความคุ้มครองกรณี : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา (กรณีรถชนรถเท่านั้น)
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ ชั้น3 ที่ไหนดี ดียังไง เหมาะกับใคร คุ้มครองอะไรบ้าง พันทิป
ประกันชั้น3 และ ชั้น2 เหมาะกับรถยนต์รุ่นเก่า และรถที่ไม่ค่อยได้ขับ หรือผู้ขับขี่ชำนาญการแล้ว หรือ ขับรถอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความคุ้มครองที่น้อย และเบี้ยถูก ดังนั้นใครที่ยังไม่ ต่อประกันภัยรถยนต์ หรือ ทำประกันรถยนต์ อย่างน้อย ทำประกันชั้น3 ไว้ก็ยังดีกว่าไม่ทำประกันเลยนะครับ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น2 ให้คุ้มครองในกรณี : ซ่อมเขา (กรณีรถชนรถ) + สูญหาย + ไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 ให้คุ้มครองในกรณี : ซ่อมเขาเพียงอย่างเดียว
4. เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ หรือ เปรียบเทียบราคาประกันภัย ที่ไหนดี
ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี pantip 2018 2561 หลังจากที่ใช้เทคนิคประกันไป 3 ข้อแล้ว คราวนี้เราก็รู้แล้วว่าเราจะ ซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ต่อไปคือการ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ หรือ เปรียบเทีบราคาประกันรถ ว่าบริษัทประกันแห่งใดที่มีค่า เบี้ยประกันรถ ราคาถูก กว่ากัน โดยสามารถปรึกษา คปภ. หรือ สำนักงานกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้ตลอดเวลาตามเวลาราชการ โดยการ เช็คเบี้ยประกันรถ สมัยนี้สามารถทำได้ผ่าน ประกันออนไลน์ และยังสามารถ ผ่อนประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ได้อีกด้วย เป็นการ ผ่อนประกันภัยรถยนต์ 0% นานสูงสุด 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือ ไม่มีบัตรเครดิต ก็สามารถผ่อนได้ด้วย ขึ้นอยู่กับแคมเปญดีๆจากบริษัทประกันที่แตกต่างกัน
5. เทคนิคประกัน เกี่ยวกับ วิธีลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ราคาถูกที่สุด
วิธีลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ฉบับ 2018 สามารถทำได้ดังนี้
ระบุชื่อและอายุของคนขับ : การระบุชื่อผู้ขับขี่ สามารถระบุได้ทั้งหมด 2 คน นอกจากจะทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยถูกแล้ว แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยและปรากฎว่าไม่ใช่ผู้ขับขี่ที่ระบุไว้ บริษัทประกันภัย ไม่มีความจำเป็นต้องจ่ายใดๆทั้งสิ้น
ยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ที่เรียกว่า Deductible : สามารถลดค่าเบี้ยประกันภัยระหว่าง 1,000-8,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทประกันภัยและความคุ้มครอง แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้เอาประกันภัย จะต้องมีส่วนในการรับผิดค่าเสียหายมากถึง 50% หรือครึ่งนึงนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : วิธีลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์
เป็นยังไงบ้างครับเพื่อนๆ บทความประกันภัยรถยนต์ อาจจะยาวนิดนึงนะครับ แต่รับรองได้ว่าท่านใดที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็ได้เทคนิคประกันภัยรถยนต์ ได้มากพอสมควร กับคำถาม ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ที่รวบรวมจาก เว็บไซต์ พันทิป ( Pantip ) ฉบับ 2018 ( 2561 ) ไม่ว่าท่านคิดจะ ทำประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ต่อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ผ่อนประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี จะหมดปัญหาไป เพราะเราเป็นลูกค้าและต้องเสียเงินค่าเบี้ย เราก็ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองนั่นเอง
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : https://pantip.com/
แนะนำและเรียบเรียงโดย : https://easyinsurebroker.com/